มีเนื้อที่มากกว่า 120,000 ตารางฟุต สร้างในสไตล์ของเวเนเชี่ยนหรือเวนิซ ห้องโถงกลางขนาดใหญ่กว่า 85,000 ตารางฟุต นอกจากนี้ยังมีห้องสวีท 4,000 ห้อง ร้านอาหาร 19 แห่ง มีสล็อตแมชชีน 3,086 ตัว
โต๊ะเล่นโป๊กเกอร์ 309 โต๊ะ
โกลด์ โคสต์, ลาสเวกัส, เนวาดา, สหรัฐ
มีเนื้อที่ทั้งหมด 86,600 ตารางฟุต และคุยว่ามีเครื่องเล่นเกมถึง 2,100 ตัว เป็นหนึ่งใน 20 คาสิโนที่ใหญ่ทีสุดในโลก
เจ้าของและผู้บริหารคือบอยด์ เกมมิ่ง
อาคารที่เป็นคาสิโนมี 30 ชั้นสูง 293 เมตร เปิดตัวในปี 1993 เน้นธีมฮอลลีวู้ด มีเนื้อที่ 170,000 ตารางฟุตมีเครื่องเล่นเกม 2,300 ตัว
บอร์กาต้าเป็นทั้งโรงแรมและคาสิโน ซึ่งลงทุนด้วยเงิน 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ มันใหญ่โตโอฬาริกตรงข้ามกับชื่อ บอร์กาต้าที่แปลว่าหมู่บ้านเล็ก ๆของอิตาลี มีเนื้อที่ถึง 161,000 ตารางเมตร
ส่วนคาสิโนมีเครื่องเล่นเกม 4,100 ตัว โต๊ะโป๊กเกอร์ 285 ตัว
ซีซาร์ส, แอตแลนติกซิตี้, นิวเจอร์ซีย์, สหรัฐ
ซีซาร์สถูกซื้อไปโดยฮาราห์ส เอ็นเตอร์เทนเมนท์เมื่อปี 2005 อาคารมีพื้นที่ขนาด 145,000 ตารางฟุต ส่วนคาสิโนมีตู้เกม 3,027 ตัว
และโต๊ะเกมและโป๊กเกอร์อีก 163 ตัว
ลักซอร์, ลาสเวกัส, เนวาดา, สหรัฐ
ตัวโรงแรมตกแต่งในสไตล์อียิปต์ ด้านนอกจะเห็นเป็นพีรามิดสีดำและตัวสฟิงซ์ที่ใหญ่กว่าของจริงในอียิปต์ คาสิโนมีเนือ้ที่ 120,000 ตารางฟุต
มีสลอตแมชชีนมากกว่า 1,300 ตัว
ธีมหลักของคาสิโนก็คือปราสาทยุคกลาง เป็นหนึ่งในคาสิโนไม่กี่แห่งในลาสเวกัสที่บอกว่าเป็นสถานที่สำหรับครอบครัว แต่ก็ํเอาใจนักพนันที่เอาจริงเอาจังโดยจัดเนื้้อที่ให้เล่นเครื่องเล่นและเกมต่าง ๆถึง 100,000 ตารางฟุต
เดอะริโอ, ลาสเวกัส, เนวาดา, สหรัฐ
ตั้งอยู่ในเขตลาสเวกัส สตริป สร้างชื่อมาจากการเปิดสระน้ำเปลือยอกสไตล์ยุโรปให้นักเที่ยว แต่ตอมาก็ถูกปิดไป เหลือแต่ส่วนคาสิโลที่มีเนื้อที่ถึง 120,000 ตารางฟุต มีตู้เล่นเกม 1,245 ตัว
โต๊ะเล่นเกมรวมทั้งโป๊กเกอร์อีก 104 ตัว
เบลลาจิโอ, ลาสเวกัส, เนวาดา, สหรัฐ
คาสิโนยักษ์ใหญ่แห่งนี้เปิดบริการในปี 1995 สถาปัตยกรรมได้รับแรงบันดาลใจจากรีสอร์ทชื่อที่เดียวที่ตั้งอยู่ที่ทะเลสาบโคโมในอิตาลี มีเนื้อที่ถึง 155,000 ตารางฟุต มีตู้เกม 2,449 ตัว
และโต๊ะเล่นโป๊กเกอร์และเกมอื่น 207 ตัว
ฟ้อกซ์วู้ดส์, เลดยาร์ด, คอนเน็คติกัต, สหรัฐ
เป็นคาสิโนที่ใหญ่ทีสุดในสหรัฐ มีคาสิโนรวมกันถึง 6 แห่งที่มีโต๊ะไพ่ 300 ตัวที่ให้เล่นไพ่ได้ถึง 17 ชนิด ฟ้อกซ์วู้ดส์ The largest casino in the USA, Foxwoods is a complex of six casinos with over 300 table games featuring 17 varieties. Located within driving distance from New York and Boston, it is spread over 340,000 square feet and the casino has over 5,000 gaming machines.
.แซนด์ส มาเก๊า, มาเก๊า, จีน
มีเนื้อที่ถึง 229,000 ตารางฟุต ทำให้แซนด์ส มาเก๊าเป็นศูนย์กลางแห่งการพนันและเกมของจีน ทั้งอาคารออกแบบโดยพอล สตีลแมน ดีซายน์กรุ๊ปที่จัดให้มีตู้เกม 750 ตัวและโต๊ะเล่นไพ่ถึง 1,000 ตัว
คาสิโนรีสอร์ท 35 ชั้นนี้เป็นการร่วมทุนกันระหว่างเอ็มจีเอ็ม มิราจและ แพนซี โฮ ชิวกิง ลูกสาวของผู้ยิ่งใหญ่ในวงการคาสิโนมาเก๊า สแตนลี โฮ เปิดให้บริการเมื่อปี 2007 มีเนื้อที่ r 221,952 ตารางฟุต มีตู้เกม 835 ตัวโต๊ะเล่นไพ่และเกมอื่น ๆ 410 ตัว
เดอะ แกรนด์ ลิสบัว, มาเก๊า, จีน
ตั้งอยุู่ในตึกที่สูงที่สุดของในมาเก๊า ส่วนเล่นเกมและพนันกระจายเต็มพื้นที่ 4 ชั้นของตึก มีโต๊ะเกม 430 ตัวและตู้เกม 730 ตัว
หลังจากนิวเจอร์ซีย์ออกกฎหมายอนุญาตให้ตั้งคาสิโนได้ในปี 1978 รีสอร์ทสก็เป็นคาสิโนและสปาแห่งแรกที่ตั้งขึ้นในแอตแลนติกซิตี้ มีเนื้อที่ถึงแสนตารางฟุต มีตู้เกม 2500 ตู้และโต๊ะเกม 95 ตัว
วินน์, มาเก๊า, จีน
วินน์ มาเก๊ามีเนื่อที่เท่า ๆกับรีสอร์ทสในแอตแลนติก ซีตี้ ที่นี่ตู้เกม 1,270 ตัวและมีโต๊ะไพ่และเกมต่าง ๆ 390 ตัว เปิดทำงานในปี 2006 เป็นคาสิโนสไตล์ลาสเวกัสแห่งแรกที่เปิดในเมืองของจีน ด้านหน้าตกแต่งด้วยน้ำพุและไฟอย่างสวยงาม ซึ่งเป็นสัญญลักษณ์ของวินน์ มาเก๊าเลยทีเดียว
เป็นคาสิโนที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีพื้นที่เล่นเกมและพนัน 87,000 ดารางฟุต ที่ตั้งสลอทแมชชีน 3000 ตัว โต๊ะเกมและไพ่ 62 ตัว แล้วก็ยังมีโรงโบว์ลิ่งขนาด 72 เลนส์ โรงภาพยนตร์อีก 16 โรง
คุุณศัพท์ที่ใช้อธิบายเวเนเชียนที่เหมาะที่สุดก็คือ มหึมา เป็นคาสิโนยักษ์ใหญ่แ่ห่งแรกที่เปิดในเขตโคไต๋ อันเป็นส่วนที่ถมทะเลให้เป็นพื้นดินขึ้นมา มีตู้เล่นเกม 3,000 ตัว และมีโต๊ะสำหรับโป๊กเกอร์และเกมอื่น 807 ตัว
ที่นี่ใหญ่กว่าสาขาในมาเก๊า โดยมีเนื้อที่ 110,000 ตารางฟุต มีตู้เกม 1900 ตัว โต๊ะเล่นเกมและโป๊กเกอร์ 167 ตัว ลงทุนด้วยเงินถึง 2700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเป็นธุรกิจหลักของวินน์ รีสอร์ทสของมหาเศรษฐี สตีฟ วินนส์
สตาร์เวิลด์, มาเก๊า, จีน
ที่แห่งนี้เอาใจนักพนันด้วยตู้เกม 500 ตู้ โต๊ะเกมและโป๊กเกอร์ 284 ตัว ได้รับรางวัลไฟว์สตาร์ไดอะมอนด์อวอร์ดซึ่งผู้ให้คือ American Academy of Hospitality Sciences เป็นเวลาห้าปีติดต่อกันนับจาก 2008 เป็นต้นมา
